จะเห็นได้ว่าค่ารูรับแสงนั้นนอกจากมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับความเร็วชัตเตอร์ดังที่ผมได้บอกไว้ใน ตอนที่ 1 แล้ว ตอนนี้มันยังสัมพันธ์กับ ค่าทางยาวโฟกัสด้วยครับ โอ้โหๆ สนุกหล่ะสิทีนี้ เห็นตารางตัวเลขมากมายอย่างนี้ใครจะไปจำได้... ไม่ต้องเป็นห่วงครับ หลังการปฏิวัติ Apple สมาร์ทโฟนช่วยคุณได้ มี App ต่างๆมากมายที่ช่วยในการคำนวณ ซึ่งผมจะไม่ขอพูดถึงในบทความนี้ เพราะว่าผมชอบอะไรง่ายเพราะฉะนั้นมาดูวิธีง่ายๆกันดีกว่าครับ
ตากล้องระดับโปรของนิตยสาร Digital Camera แนะนำเอาไว้ว่า ถ้าเราถ่ายภาพด้วยเลนส์มุมกว้างหน่อย ตัวอย่างเช่น ที่ระยะ 18 mm ด้วยกล้อง SLR ที่มีเซนเซอร์รับภาพแบบ APS-C เราก็ไม่จำเป็นต้องไปสนใจตารางนี้ครับ
เพียงแค่เราเลือกรูรับแสงเล็กๆ ซัก f/16 แล้วก็โฟกัสด้วยตัวเองไปที่ระยะที่ห่างจากกล้องประมาณ 3 เมตร แค่นี้เราก็จะได้ภาพที่คมชัดตั้งแต่ระยะประมาณ 1 เมตรไปจนถึงระยะอนันต์แล้วครับ ง่ายมั้ย... f/16 กับ 3 เมตร ง่ายมาก ฮ่าๆ
ทีนี้ปัญหาสำคัญก็คือรู f/16 มันแคบ แสงเข้าได้น้อย...(อะไรแคบๆก็เป็นแบบนี้แหละครับ ฮ่าๆ) มันจะมีปัญหาตอนที่มีแสงน้อยๆเช่นตอนเช้าหรือตอนเย็น ซึ่งช่วงนี้เป็นเวลาทองของการถ่ายภาพซะด้วยสิ ทำยังไงดี... ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ช่างภาพวิวทุกคนควรจะมีขาตั้งกล้องเอาไว้เป็นของตัวเอง เค้าแนะนำว่าถ้าความเร็วชัตเตอร์ของเราลดลงต่ำกว่า 1/30 วินาทีเมื่อไหร่ ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. เพิ่ม ISO ก่อนถ้าขี้เกียจวางขาตั้ง ซัก 200-400 กำลังดี อย่าให้เกินนี้
2. ถ้า ISO เอาไม่อยู่ก็ใช้ขาตั้งครับ
ง่ายๆแค่นี้เราก็จะได้ภาพวิวที่ต่างออกไปจากภาพวิวธรรมดาที่เราเคยถ่ายมาแล้ว ต่อไปเป็นเนื้อหาแบบ Shortcut เผื่อใครขี้เกียจอ่านข้างบน
การตั้งค่าง่ายๆเพื่อภาพวิวที่คมชัด
1. เปลี่ยนไปใช้โหมด Aperture Priority (A หรือ Av)
2. เปลี่ยนจาก ออโต้โฟกัสเป็น แมนวล อันนี้เปลี่ยนได้ที่เลนส์ครับ
3. รูรับแสง : f/16
4. ความเร็วชัตเตอร์ : กล้องจัดให้
5. ISO : 100 เป็นพื้นฐานไว้ก่อน
6. เลนส์ : 18 - 24 มม. เลนส์คิท 18-55 ก็ถ่ายได้ครับ
7. โฟกัส : ระยะ 3 เมตรจากตัวกล้อง
7. Drive mode : Single short
8. White balance : Day light ปล.อันนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแสงเวลานั้นด้วยครับ
Option เสริม
1. ถ้าความเร็วชัตเตอร์ต่ำกว่า 1/30 เมื่อไหร่ ให้เพิ่ม ISO เป็น 200-400 ถ้าไม่ไหวให้ใช้ขาตั้งกล้อง
2. ถ้าให้ดีมีสายลั่นชัตเตอร์ด้วยจะดีมากๆถ้าไม่มีให้ตั้งเวลาถ่ายภาพ 2 วินาทีก็พอครับ ถ้าล็อคกระจกโฟกัสด้วยยิ่งดี แต่สำหรับคนที่เปิดฟังก์ชันนี้ไม่เป็นก็ข้ามไปก่อน
อย่างที่ผมบอกในตอนที่แล้ว การถ่ายภาพนั้นมีอะไรมากกว่าที่หลายคนคิด ภาพสวยๆที่เราเห็นกันเกิดจากการที่ช่างภาพพิถีพิถันในการตั้งค่า และการจัดองค์ประกอบ รวมไปถึงความอดทนรอเพื่อให้ได้ภาพในช่วงเวลาที่เหมะสม แหม่...ทำให้นึกถึงคำคมของอาจารย์ท่านหนึ่งที่ผมได้ยินตอนไปร่วมแข่งขัน Canon Photo Marathon 2012 ท่านบอกไว้ว่า
"ภาพที่ดีนั้นต้อง สวยด้วยแสง แรงด้วยเรื่อง เฟื่องด้วยปัญญา และที่สำคัญคือต้องแสวงหาและรอคอย"
ผมว่าทุกอย่างที่ภาพๆนึงควรจะมี ประโยคนี้อธิบายไว้หมดแล้วครับ
หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆนักถ่ายภาพทุกท่านนะคร้าบ แล้วมาติดตามกันต่อไปตอนหน้านะครับ กับตอนที่เกี่ยวกับพระอาทิตย์คร้าบบบบบ : ))
ถ่ายโดย คุณ Simon Christen |